กำลังเป็นประเด็นในโลกออนไลน์เป็นอย่างมากเมื่อมีข่าวหลุดออกมาว่าทวิตเตอร์ของนายกรัฐมนตรีของประเทศอินเดียถูกแฮกเกอร์มือดีได้มีการแฮกข้อมูลส่วนตัวเข้าไปและทำเรื่องขอรับเงินบริจาคเพื่อการกุศลเงินบริจาคนั้นจะถูกรับมาเป็นในรูปแบบของสกุลเงินดิจิตอล
ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้สร้างความตื่นตัวให้กับคนที่ใช้ทวิตเตอร์ในอินเดียเป็นอย่างมากเพราะใครๆก็รู้ดีอยู่แล้วว่า Twitter ของนายกรัฐมนตรีนั้นซึ่งมีการดูแลอย่างดีจากทางทีมผู้ดูแลเกี่ยวกับเรื่องของข้อมูลทางเว็บไซต์ซึ่งข้อมูลเหล่านี้
จะมีคนที่เก่งๆด้านคอมพิวเตอร์คอยดูแลข้อมูลให้กับทางนายกรัฐมนตรีไม่ว่าจะเป็นการใช้งานเว็บไซต์หรือว่าการเล่นแอพพลิเคชั่นผ่านทางมือถือก็ตามดังนั้นการที่แฮกเกอร์สามารถที่จะเข้ามาแฮกข้อมูลส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีได้นั้นนับได้ว่าเป็นข้อบกพร่องของผู้ดูแลระบบของนายกรัฐมนตรีเป็นอย่างมากแต่นับได้ว่าที่แฮกเกอร์แฮกเข้าไปที่ Twitter ของนายกรัฐมนตรีนั้น
เป็นการแฮกข้อมูลบางส่วนเท่านั้นซึ่งข้อมูลดังกล่าวมีคนติดตามนายกรัฐมนตรีของประเทศอินเดียเพียงแค่ 2.5 ล้านคนเท่านั้นแต่เขายังคงมีบัญชีรายชื่อของ Twitter อีก 1 บัญชีซึ่งบัญชีนี้มีผู้ที่ติดตามนายกรัฐมนตรีอินเดียมากถึง 11 ล้านคน
และคนส่วนใหญ่ก็เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงด้วยกันทั้งนั้นทำให้ตอนนี้ผู้ดูแลระบบของทางนายกรัฐมนตรีต่างก็เร่งแก้ไขปัญหาเรื่องนี้กันเป็นอย่างมากเราไม่ใช่เพียงแค่ทางด้านนายกรัฐมนตรีของประเทศอินเดียเท่านั้นที่ถูกแฮกข้อมูลเนื่องจากว่ามีพรรคการเมืองใหญ่ๆอีกหลาย
คนรวมถึงมีพวกมหาเศรษฐีหลายคนของประเทศอินเดียต่างก็ถูกแฮกข้อมูลเช่นเดียวกันและข้อมูลที่แพ็คเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะเป็นการเข้าไปโพสต์เพื่อขอรับเงินบริจาคเหมือนกันที่สำคัญเงินที่รับบริจาคนั้นก็จะเป็นสกุลเงินดิจิตอลเหมือนกันเพื่อให้ยากต่อการติดตามตัวนั้นเอง
ดังนั้นอาจนับได้ว่าการใช้งานทางด้านไอทีไม่ใช่ว่าจะมีแต่ข้อดีเพียงเท่านั้นเพราะข้อมูลต่างๆของเราหากมีแฮกเกอร์ฝีมือดีๆก็สามารถแฮกข้อมูลต่างๆของเราได้ดังนั้นข้อมูลที่เรามีอยู่ในระบบหรือในโลกโซเชียลเราควรมีการปิดบังข้อมูลไม่ให้ใส่ข้อมูลส่วนตัวลงไปมากนักเพื่อป้องกัน Hacker แฮกข้อมูลของเราแล้วนำข้อมูลของเราไปทำในเรื่องที่ไม่ดีเรื่องที่ผิดกฎหมายหรือบางทีอาจจะแฮกเอาข้อมูลส่วนตัวของเราไปดึงเงินออกจากธนาคารของเราได้นั่นเอง
ไม่ใช่เพียงแค่ต่างประเทศเท่านั้นที่ถูกแฮกเกอร์ฝีมือดีมีการแฮกข้อมูลเข้าไปเพื่อนำข้อมูลส่วนตัวออกไปทำธุรกรรมด้านอื่นประเทศไทยเองก็พบเห็นอยู่บ่อยครั้งเกี่ยวกับเรื่องของการแฮกข้อมูลและนำข้อมูลของเราเพื่อไปทำการขอยืมเงินเพื่อนๆในฐานระบบของเราดังนั้นวิธีการป้องกันที่ดีที่สุดก็คือการตั้งค่าข้อมูลในโลกโซเชียลของเราให้เป็นส่วนตัวไม่ควรตั้งเป็นแบบสาธารณะนั่นเอง
สนับสนุนโดย ีดฟิำะ